เมื่อวันที่ 23 พ.ย. นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 (ปฐมนิเทศโครงการ) โครงการทางพิเศษ (ด่วน) ยกระดับชั้นที่ 2 (งามวงศ์วาน-พระราม 9) วงเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาทว่า ได้รับร้องเรียนจากประชาชนเข้ามามากว่า ทางด่วนไม่ด่วนจริง มีหลายจุดที่เกิดปัญหาจราจรสาหัสมาก โดยเฉพาะสามแยกนรก บริเวณช่วงทางแยกต่างระดับพญาไท ที่ด้านเหนือไปประชาชื่น และด้านใต้ไปบางโคล่ ซึ่งปัญหาเกิดจากทั้งความจุของทางด่วนไม่พอ, จุดตัดกระแสจราจรบริเวณทางร่วม และทางแยก, จราจรติดขัดบริเวณทางลงทางด่วน, การไหลเวียนจราจรบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทาง และคอขวดทางกายภาพบนทางด่วนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาดังกล่าว จะใช้วิธีจัดจราจรคงไม่ได้ผล ต้องใช้วิธีแก้ทางกายภาพ จึงต้องสร้างทางด่วน 2 ชั้น เพื่อแยกเส้นทางรถให้ด้านเหนือที่จะไปประชาชื่น ขึ้นไปใช้ทางด่วนชั้นที่ 2 ส่วนด้านใต้ที่จะไปบางโคล่ ให้ใช้ทางด่วนเดิมด้านล่าง เพื่อไม่ให้กระแสการจราจรตัดกัน อย่างไรก็ตามการสร้างทางด่วนยกระดับชั้นที่ 2 เป็นเรื่องที่ท้าทายทางวิศวกรรม เพราะต้องสร้างอยู่บนทางด่วนที่เปิดให้บริการตามปกติ โดยระหว่างก่อสร้างอาจมีสิ่งของตกลงมาได้ จึงเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ ต้องมีมาตรการรัดกุม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ใช้ทางในระหว่างการก่อสร้างคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นายสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันทางด่วนของ กทพ. มีประมาณ 200 กิโลเมตร (กม.) สร้างทางด่วนยกระดับชั้นที่ 2 ที่บริเวณพระราม 4 และกำลังก่อสร้างในโครงกางทางด่วน สายพระราม 3-ดาวคะนอง และเตรียมก่อสร้าง ช่วง งามวงศ์วาน-พระราม 9 ซึ่งในการดำเนินการแต่ละโครงการย่อมมีประชาชนได้รับผลกระทบ และทัศนียภาพอาจจะเปลี่ยนไป ดังนั้นจึงต้องรับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาดำเนินโครงการต่อไป นับเป็นการแสดงความมุ่งมั่นว่า กทพ. ใส่ใจต่อความรู้สึก และความคิดเห็นของประชาชนที่อยู่ตามสายทางทางด่วนอย่างเต็มที่
ด้าน นายวิรัช หิรัญ ผู้จัดการโครงการฯ กล่าวว่า โครงการทางด่วนยกระดับชั้นที่ 2 (Double Deck) ช่วงงามวงศ์วาน-พระราม 9 อยู่ภายใต้งานศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการแก้ไขปัญหาการจราจรบนโครงข่ายทางด่วน ระยะที่ 1 เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางด่วนศรีรัช ช่วงงามวงศ์วาน-พญาไท-พระราม 9 ซึ่งประสบปัญหาการจราจรอย่างหนักเข้าขั้นวิกฤติทั้งใน และนอกช่วงเวลาเร่งด่วน สำหรับแนวเส้นทางฯ เริ่มต้นที่บริเวณทางแยกต่างระดับงามวงศ์วาน เป็นทางยกระดับซ้อนทับไปตามแนวสายทางของทางด่วนศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) มุ่งทิศใต้ เลี้ยวซ้ายไปทางทิศตะวันออกบริเวณทางแยกต่างระดับพญาไท ผ่านทางแยกต่างระดับมักกะสัน และสิ้นสุดบริเวณหลังด่านเก็บค่าผ่านทางอโศก 4 ของทางด่วนศรีรัช รวมระยะทาง 17 กม. มีขนาด 4 ช่องจราจร (2 ช่องจราจรต่อทิศทาง)
มีด่านเก็บค่าผ่านทาง 2 แห่ง ได้แก่ ด่านประชาชนชื่น (ชั้นที่ 2) และด่านมักกะสัน มีทางขึ้น-ลง 4 ตำแหน่ง ได้แก่ ทางขึ้น-ลง จุดเริ่มต้นโครงการบริเวณทางแยกต่างระดับงามวงศ์วาน ทางขึ้นลงบริเวณย่านพหลโยธิน และทางขึ้น-ลงจุดสิ้นสุดโครงการบริเวณโรงพยาบาลพระราม 9 และบริเวณทางแยกต่างระดับมักกะสันมีเฉพาะทางลง อย่างไรก็ตาม กทพ. จะใช้เวลาดำเนินการศึกษาประมาณ 450 วัน คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ส.ค.66 โดยพื้นที่ศึกษาครอบคลุม 2 จังหวัด ได้แก่ จ.นนทบุรี 1 อำเภอคือ อ.เมืองนนทบุรี และกรุงเทพฯ 7 เขต ได้แก่ เขตบางซื่อ, จตุจักร, พญาไท, ดุสิต, ราชเทวี, ดินแดง และห้วยขวาง
นายวิรัช กล่าวต่อว่า การรับฟังความคิดเห็นฯ ในครั้งนี้เป็นการให้ข้อมูลรายละเอียดเบื้องต้น และรับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อนำไปพิจารณาประกอบการศึกษาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเดือน ม.ค.66 กทพ. จะจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นฯ ครั้งที่ 2 ซึ่งจะมีรายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ เบื้องต้นสำหรับแผนการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาการจราจรบนโครงข่ายทางด่วน ระยะที่ 1 ประกอบด้วย ปี 65-67 (27 เดือน) ศึกษาความเหมาะสมฯ ออกแบบเบื้องต้น และจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และรายงานผลการศึกษาและวิเคราะห์การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP), ปี 66-67 (12 เดือน) ขออนุมัติรายงาน EIA, ปี 66-68 (17 เดือน) ขอใช้พื้นที่, ปี 68-73 (60 เดือน) ก่อสร้างโครงการฯ และเปิดให้บริการในปี 73.