20 ทีมในพรีเมียร์ลีก ช่วยกันสร้างสถิติใหม่ด้วยการใช้เงินเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมารวมกันไปถึง 2,360 ล้านปอนด์ หรือกว่า 105,029 ล้านบาท
โดยบีบีซี ออกมาเผยว่า หลังจากตลาดซื้อ-ขายนักเตะรอบแรกของยุโรปได้ปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ “ดีลอยท์” บริษัทตรวจสอบบัญชียักษ์ใหญ่ได้มีการนำเม็ดเงินที่ 20 ทีมในพรีเมียร์ลีกใช้เสริมทัพในช่วงดังกล่าวมาเผยแพร่ ผลปรากฎว่า มีการทำลายสถิติเมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้วลงอย่างราบคาบ โดยในซัมเมอร์นี้ 20 ในพรีเมียร์ลีกใช้เงินเสริมทัพไปถึง 2,360 ล้านปอนด์ หรือประมาณกว่า 105,029 ล้านบาท ทำลายสถิติเดิมเมื่อปีที่แล้ว 1,920 ล้านปอนด์ หรือ 85,447 ล้านบาท ไปถึง 440 ล้านปอนด์ หรือ 19,581 ล้านบาทเลยทีเดียว
นอกจากนี้ทั้ง 20 ทีมยังมีโอกาสทำลายสถิติการซื้อนักเตะรวมกันทั้ง 2 ตลาดลงได้อีกด้วย หลังจากสถิติเดิมเมื่อปีที่แล้วทั้ง 2 ตลาด ใช้เงินไป 2,730 ล้านปอนด์ หรือ 121,495 ล้านบาท มากกว่าตอนนี้อยู่แค่ 370 ล้านปอนด์ หรืออีกแค่ 16,465 ล้านบาทเท่านั้น
คำพูดจาก เว็บสล็อต ดีที่สุดในไทย
ส่วนสโมสรที่ใช้เงินเสริมทัพมากที่สุดเป็น เชลซี ของ ท็อดด์ โบห์ลี่ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ที่ใช้เงินสร้างทีมไปทั้งสิ้น 397 ล้านปอนด์ หรือกว่า 17,510 ล้านบาท นอกจากนี้ยังทำสถิติซื้อนักเตะมาแพงที่สุดบนเกาะอังกฤษด้วย หลังคว้า มอยเซส ไกเซโด้ มาจากไบรท์ตัน ด้วยค่าตัวถึง 115 ล้านปอนด์
รองลงมาเป็น “เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้ ที่ใช้เงินไป 206.26 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 9,097 ล้านบาท ในการคว้าตัว ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, มาเตอุส นูเนซ, เจเรมี่ โดกู และ มัตเตโอ โควาซิช เข้ามาสู่ทีม ด้าน “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล อยู่อันดับ 3 ใช้เงินเสริมทัพไป 200 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 8,865 ล้านบาท โดยได้ตัว ไค ฮาร์แวร์ต, เดแคลน ไรซ์ และ ยูเลี่ยน ทิมเบอร์ เข้ามาเสริมทัพ
อันดับ 4 เป็น “ปีศาจแดง” แมนฯยูไนเต็ด ที่เซ็นนักเตะเข้ามาสู่ทีมในวันสุดท้ายถึง 4 คน ใช้เงินไป 176.83 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 7,799 ล้านบาท ขณะที่ ลิเวอร์พูล ใช้เงินไป 147 ล้านปอนด์ หรือ 6,490 ล้านบาท แลกกับ ไรอัน กราเวนเบิร์ก, โดมินิก โซบอสไล, วาตารุ เอ็นโดะ และ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์