ผลเสมอในนัดนี้ไม่เป็นผลดีสำหรับทั้งสองทีม สำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด โอกาสลุ้นแชมป์แทบจะหมดลงไปทันที แต่สำหรับซันเดอร์แลนด์ ผลการแข่งขันนัดนี้ส่งพวกเขากลับไปสู่เดอะ แชมเปียนชิพ อย่างเป็นทางการ
แม้ว่าแมนฯ ยูไนเต็ด จะสามารถคว้าชัยชนะได้ถึง 10 เกมติดต่อกันแล้ว แต่ก็ไม่สามารถที่จะเก็บสามคะแนนจากนัดนี้ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นนัดที่ทุกคนคิดว่าน่าจะเป็นงานสบายของพวกเขา 1 คะแนนที่ได้ทำให้ช่องว่างระหว่างทีมกับเชลซี เหลืออยู่ 6 คะแนน แต่เชลซี ยังมีการแข่งขันเหลือมากกว่าอยู่อีก 1 นัด ทำให้โอกาสลุ้นแชมป์ในอีก 4 นัดทีเหลือของแมนฯ ยูไนเต็ด เลือนลางลงไปทุกที
ซันเดอร์แลนด์ ลงมาเล่นนัดนี้ด้วยการตั้งรับอย่างเหนียวแน่น ส่วนทางด้านเควิน เดวิส ผู้รักษาประตูของทีมแมวดำก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย
ก่อนเกมจะเริ่มต้น มีการพูดถึงผลต่างของประตูที่จะเกิดขึ้นในนัดนี้ แต่ผลสุดท้ายมันกลับตรงกันข้ามอย่างไม่น่าเชื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่สามารถทำได้แม้แต่ที่จะยิงประตูทีมซันเดอร์แลนด์ เพียงแค่ประตูเดียว
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้กล่าวก่อนเกมว่า ในการไล่ล่าอันดับที่ 1 กับเชลซี นั้น ผลต่างประตูได้เสียมีส้วนสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่แปลกเลยที่แมนฯ ยูไนเต็ด จะเร่งเครื่องเพื่อที่จะทำประตูแรกให้ได้เร็วที่สุด ทำให้แฟนบอลปีศาจแดง ได้ใจชื้นขึ้นมาบ้าง
โอกาสแรกของแมนฯ ยูไนเต็ด เกิดขึ้นในนาทีที่ 10 จากลูกฟรีคิกของไรอัน กิ๊กส์ ซึ่งผ่านกำแพงไปได้และกำลังจะเสียบเสาใกล้อยู่แล้ว แต่ทว่าผู้รักษาประตูของซันเดอร์แลนด์ ก็ได้ปัดออกหลังไปได้ทันท่วงที จึงทำให้ได้เพียงแค่ลูกเตะมุมเท่านั้น
จากนั้นมาในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก ฝ่ายเจ้าบ้านทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด มีจังหวะที่ปาร์ค เลี้ยงบอลผ่านนักเตะแมวดำไปได้ 2 คนและยิงด้วยเท้าซ้ายจากเส้นเขตโทษแต่ลูกก็เฉียดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้นแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้โอกาสอีกครั้งในอีกไม่นาน รูนี่ยได้บอลทางฝั่งซ้ายหน้าเขตโทษและยิงบอลไปแฉลบเลียม ลอว์เรนซ์ ทำให้ลูกไปตกอยู่บนตาข่ายหลังประตู
โชคก็ยังไม่เข้าข้างแมนฯ ยูไนเต็ด อีกครั้งเมื่อรูนี่ย์ จ่ายบอลทะลุช่องไปให้รุด ฟาน นิสเตลรอย ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก แต่ลูกที่จ่ายไปกลับย้อนหลังศูนย์หน้าชาวดัตช์ผู้นี้ ทำให้ไม่สามารถจับบอลมาเล่นต่อได้ และเสียโอกาสไปในที่สุด
แฟนซันเดอร์แลนด์ ตะโกนล้อเล่นว่า “เราเป็นทีมทีมท้ายตารางและเรากำลังหัวเราะกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่” ประโยคนี้ทำให้แฟนแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่น่าจะพอใจนัก ทางด้านในสนาม รูนี่ย์ ก็ซัดบอลข้ามคานไปอีกครั้ง ก่อนที่กิ๊กส์จะแตะบอลไปให้รูนี่ย์ เปิดมาจากทางด้านซ้ายแต่ก็ไม่มีใครสามารถชาร์จเข้าไปทำประตูได้
แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบที่จะต้องเสียประตูบ้างในช่วงท้ายครึ่งแรกหลังจากที่โรนัลโด้ ทำบอลลั่นเสียการครองบอลไปตรงกลางสนาม ซันเดอร์แลนด์ ได้โอกาสสวนกลับเร็ว โจนาธาน สเตด พุ่งเข้ามาตามซ้ำจังหวะเปิดของเพื่อนร่วมทีมแต่ช้าไปนิด ทำให้ลูกบอลเข้าหน้าต่างประตู เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของซันเดอร์แลนด์ ในเกมนี้เลยทีเดียว
มาในช่วงครึ่งหลัง นักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด ต้องลงมาเล่นพร้อมกับความกดดันมหาศาลที่ถาโถมมาใส่ทีม ปาร์ค, รูนี่ย์ และกิ๊กส์ หุบเข้ามาเล่นตรงกลางในช่วงหลังจากพักครึ่งมา 5 นาทีแรก
แต่ผลของการกระทำก็ไม่ได้เป็นอย่างที่นักเตะและแฟนๆ ของแมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการ โอกาสของรุด กับรูนี่ย์ ถูกปฏิเสธโดยแนวรับของซันเดอร์แลนด์ ไปหมด จากนั้นลูกโยนของแกรี่ เนวิลล์ ก็ไม่มีใครเข้าชาร์จได้ทันอีกครั้ง
ต่อมา โรนัลโด้ พลาดโอกาสสำคัญที่จะทำประตู รูนี่ย์ เอาบอลลงแล้วให้กับโรนัลโด้ ได้โอกาสยิงโล่งๆ คนเดียว แต่ก็ยังไปติดเดวิส อีกตามเคย
เซอร์ อเล็กซ์ พยายามแก้เกมโดยการส่งโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ลงมาแทนจอห์น โอเชีย และส่งมิกาเอล ซิลแวสตร์ ลงมาแทนปาทริซ เอวร่า ในช่วงนาทีที่ 70 ขณะที่ลงสนาม โซลชาร์ ได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้องจากแฟนบอลรอบสนาม โดยลงไปจับคู่กับรุด ฟาน นิสเตลรอย แล้วถอยรูนี่ย์ ลงมาเป็นปีกซ้ายและโยกปาร์ค มาช่วยกิ๊กส์ ในแดนกลาง
แมนฯ ยูไนเต็ด โหมบุกเข้าใส่ซันเดอร์แลนด์ ตามเคย แต่เดวิส ก็โชว์ฟอร์มฮีโร่ช่วยเซฟไว้ได้ในหลายๆ จังหวะ จังหวะที่สำคัญที่สุดเป็นการเซฟลูกยิงของรุด ฟาน นิสเตลรอย ในนาทีที่ 75 โดนปัดออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ
ซันเดอร์แลนด์ ถอยตัวผู้เล่น 9 คนลงมาต่ำในเกมรับของตัวเองและพยายามที่จะเคลียร์ลูกที่แมนฯ ยูไนเต็ด สาดเข้ามาให้ได้หมดทุกลูก
จนจบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งยิงประตูมากที่สุดในลีกก็ไม่สามารถเจาะแนวรับของทีมที่เสียประตูมากที่สุดในลีกได้ ผลเสมอครั้งนี้คงเป็นได้เพียงแค่ผลงานอันน่าจดจำของทีมเท่านั้น เพราะมันเพียงพอแล้วที่จะส่งซันเดอร์แลนด์ ตกไปจากพรีเมียร์ ลีก ในขณะที่มันก็ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด หยุดเส้นทางและความหวังในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ ลีก ในปีนี้ไปได้เลยเช่นกัน (บรรยายเกมโดย boom)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 19
เวส บราวน์ 6
ปาทริซ เอวร่า 3
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
แกรี่ เนวิลล์ 2
จอห์น โอเชีย 22
ไรอัน กิ๊กส์ 11
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7
ปาร์ค จีซุง 13
เวย์น รูนี่ย์ 8
รุด ฟาน นิสเตลรอย 10
สำรอง
ทิม โฮเวิร์ด 1
กาเบรียล ไฮน์เซ่ 4
มิเกล ซิลแวสตร์ 27 น. 67 ปาทริซ เอวร่า 3
ควินตัน ฟอร์จูน 25
โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ 20 น. 67 จอห์น โอเชีย 22
ซันเดอร์แลนด์
เควิน เดวิส 1
แกรี่ บรีน 5
จัสติน ฮอยต์ 32
จอร์จ แม็คคาร์ทนี่ย์ 3
แดนนี่ คอลลินส์ 15
เลียม ลอว์เรนซ์ 7
แกรนท์ ลีดบิตเตอร์ 23
ดีน ไวท์เฮด 8
คริส บราวน์ 20 ( น. 90)
แดริล เมอร์ฟี่ย์ 26
โจนาธาน สเตด 9
สำรอง
โจ เมอร์ฟี่ย์ 30
สตีเว่น คัลด์เวลล์ 6 น. 63 แกรี่ บรีน 5
ทอมมี่ มิลเลอร์ 14 น. 74 แกรนท์ ลีดบิตเตอร์ 23
เควิน ไคล์ 16
แอนโธนี่ เลอ ตัลเล็ค 17 น. 80 โจนาธาน สเตด 9
สถิติของเกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิงตรงกรอบ 9, ยิงหลุดกรอบ 13, โดนบล็อค 13, เตะมุม 16, ฟาวล์ 6, ล้ำหน้า 2, การครองบอล 66.2%
ซันเดอร์แลนด์ ยิงตรงกรอบ 2, ยิงหลุดกรอบ 9, โดนบล็อค 3, เตะมุม 2, ฟาวล์ 17, ล้ำหน้า 1, ใบเหลือง 1, การครองบอล 33.8%
คะแนนความสามารถ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6, แกรี่ เนวิลล์ 6, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 6, เวส บราวน์ 6, ปาทริซ เอวร่า 5, ไรอัน กิ๊กส์ 7, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 5, จอห์น โอเชีย 5, ปาร์ค จีซุง 7, รุด ฟาน นิสเตลรอย 7, เวย์น รูนี่ย์ 7, มิเกล ซิลแวสตร์ (สำรอง) 5, โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ (สำรอง) 5
ซันเดอร์แลนด์ เควิน เดวิส 8, จัสติน ฮอยต์ 7, แดนนี่ คอลลินส์ 5, แกรี่ บรีน 6, จอร์จ แม็คคาร์ทนี่ย์ 5, เลียม ลอว์เรนซ์ 7, แกรนท์ ลีดบิตเตอร์ 8, ดีน ไวท์เฮด 7, แดริล เมอร์ฟี่ย์ 6, โจนาธาน สเตด 7, คริส บราวน์ 6, สตีเว่น คัลด์เวลล์ (สำรอง) 5, ทอมมี่ มิลเลอร์ (สำรอง) 5, แอนโธนี่ เลอ ตัลเล็ค (สำรอง) 5
Por