เปิดสาเหตุคนจีนอพยพเข้าสหรัฐอเมริกา ถึงแม้เสี่ยงตายก็ยอม

ประเด็นเรื่องผู้อพยพที่หนีเข้าสหรัฐฯ แบบผิดกฎหมาย เป็นปัญหาที่เกิดมาอย่างยาวนาน และทุกคนก็คุ้นเคยกับผู้อพยพส่วนใหญ่ที่ไหลเข้าสหรัฐฯ จะมาจากประเทศทางแถบแอฟริกาบ้าง อเมริกาใต้ อเมริกากลาง แล้วมาบรรจบกันที่เม็กซิโก ประเทศที่มีพรมแดนติดกับรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐฯ ซึ่ง ณ เวลานี้ นอกจากพรมแดนก็ยังมีกำแพงป้องกันผู้อพยพด้วย ตัวเลขล่าสุดของผู้อพยพยังคงเพิ่มไม่หยุด และประเทศหนึ่งในเอเชียที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้สหรัฐฯ แต่คนในประเทศหนีออกกันเพียบ ประเทศนี้ก็คือจีนแผ่นดินใหญ่นั่นเอง

อ้างอิงข้อมูลทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการอพยพย้ายถิ่นของชาวจีนมาสู่สหรัฐในสมัยก่อน เพราะทุกคนก็จะคิดว่าไม่เห็นแปลกถ้าวันนี้ตัวเลขคนจีนหนีเข้าสหรัฐเยอะ จากข้อมูลของ University of Illinois ในหัวข้อที่บันทึกเรื่องการอพยพของชาวจีนในช่วงยุคทศวรรษที่ 19 คนจีนเริ่มอพยพเข้ามาในซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียช่วงต้นปี 1838 แต่ว่าถ้าเอาแบบอพยพมาเป็นจำนวนมากในช่วงปี 1850 คนจีนที่อพยพมาตอนนั้นส่วนใหญ่เป็นพวกชาวไร่ชาวนา สาเหตุก็เรื่องปากท้องเลย แล้วก็ปัญหาทางการเมืองในตอนนั้น พวกเขาตั้งปณิธานเลยว่าจะตั้งใจทำงานให้หนัก หาเงินให้ได้เยอะๆ แล้วจะได้กลับบ้านไปอย่างคนรวย กลับไปอยู่กับครอบครัวแบบสบายๆ ซึ่งช่วงที่คนจีนเหล่านี้อยู่อาศัยในสหรัฐ ก็อยู่รวมกันเป็นชุมชนจนขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอนว่าไม่ทิ้งวัฒนธรรม ภาษาของตัวเองที่ใช้กันในชุมชน แต่เวลาผ่านมาเรื่อยๆ ในบันทึกทางประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้บอกว่ามีคนจีนไหลทะลักเข้าสหรัฐมาแบบผิดกฎหมายอีก ด้วยจีนเองก็ก้าวเข้าสู่ยุครุ่งเรืองของเศรษฐกิจด้วย คนจีนสมัยใหม่เลยนิยมส่งลูกหลานไปเรียนต่อต่างประเทศกันมากกว่า

แต่ในเวลานี้ การอพยพมายังสหรัฐของคนจีนกลับมาอีกครั้งอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนของสหรัฐ หรือ CBP รายงานตัวเลขเมื่อปีที่แล้วของผู้อพยพที่เป็นคนจีนลักลอบเข้าสหรัฐมีถึง 37,000 คน โดยพวกเขามุดตัวผ่านช่องเล็กๆ ของชายแดนเม็กซิโกเข้ามายังสหรัฐ และในที่สุดผู้อพยพชาวจีนก็ก้าวกระโดดขึ้นมาอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่นาน

ทำไมคนจีนถึงต้องอยากหนีจากบ้านเกิดของตัวเองเยอะขนาดนี้

นักข่าวจากรอยเตอร์สไปเฝ้าติดตามทำข่าวและถ่ายภาพตรงชายแดนรัฐเท็กซัสของสหรัฐที่ติดกับเม็กซิโก ในเวลาเพียง 3 สัปดาห์มีผู้อพยพชาวจีนหลายร้อยคนที่ลักลอบเข้ามา ซึ่งนักข่าวของรอยเตอร์สก็ได้ไปสัมภาษณ์ชาวจีนเหล่านั้นมากกว่า 20 คน ว่าเพราะอะไรถึงต้องมาเป็นผู้อพยพที่ผิดกฎหมาย ซึ่งคำตอบที่ได้รับไม่แตกต่างกันเลย

1. ความยากเย็นแสนเข็ญของการขอวีซ่าสหรัฐ การขอวีซ่าเข้ามายังสหรัฐฯ ของคนจีนไม่ว่าจะมาเที่ยว มาทำงาน หรือมาเรียนไม่ได้ยากแต่ช่วง 2-3 ปีให้หลังมานี้กลับยากมากขึ้น และหลายคนก็โดนปฏิเสธด้วยซ้ำ อย่างในปี 2016 สหรัฐฯ อนุมัติวีซ่าให้คนจีนไป 2,200,000 คน แต่ปี 2022 เหลือแค่ 160,000 คน ซึ่งส่วนหนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นระหว่าง 2 ประเทศ

2. ความไม่แน่นอนในเรื่องปากท้อง จากการเติบโตของเศรษฐกิจที่ช้ายิ่งกว่าเต่า ช่วงโควิด-19 ระบาด จีนเป็นประเทศเดียวในโลกก็ว่าได้ที่สั่งคุมเข้มล็อกดาวน์ประเทศนานถึงเกือบ 3 ปี แล้วจีนเป็นชาติแห่งความขยันทำมาหากิน ค้าขายคึกคัก แต่ในช่วงเวลานั้นทุกชีวิตต้องทนทุกข์ทรมานหาเงินเลี้ยงชีพ ไม่ใช่หนีโรคระบาด แต่หนีความไม่มีจะกิน และเมื่อวันที่ทางการจีนประกาศยกเลิกการล็อกดาวน์ กลายเป็นว่าท้องฟ้ามันไม่ได้กลับมาสดใสเหมือนแต่ก่อน เศรษฐกิจไม่ฟื้นตัวเร็วอย่างที่คิดไว้ และคนก็ไม่ไหวจะอยู่ในประเทศอีกต่อไป The Diplomat รายงานอัตราการว่างงานในจีนเพิ่มสูงขึ้นกว่า 20.4 เปอร์เซ็นต์ เด็กจบใหม่ไม่มีงานทำ เจ้าของธุรกิจก็เจ๊ง ซึ่งสอดคล้องกับที่รอยเตอร์สพบว่าผู้อพยพไม่ใช่ชนชั้นแรงงานอย่างเดียว แต่กลับมีคนชนชั้นกลางด้วย หลากหลายอาชีพ ทั้งครู พนักงานธนาคาร เจ้าของธุรกิจ หรือแม้แต่แม่ค้าที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว

3คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. การเมืองภายใต้ผู้นำอย่างประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ทำให้ผู้อพยพบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ต้องหนีเพื่ออิสรภาพ” สิ่งที่น่าสนใจคือในช่วงโควิด-19 ระบาด โลกออนไลน์มีแสลงที่ถูกพูดถึงกันเยอะมากคือคำว่า “润学 (runxue, “run philosophy”)” รัน-เสวีย ซึ่งคำว่า Run ในภาษาอังกฤษที่แปลว่า หนี ส่วน เสวีย ในภาษาจีนหมายถึง วิชา ปรัชญา มันคือการรวบรวมวิชาหนีออกนอกประเทศ พอเจาะลึกลงไปจะเจอข้อมูลอีกว่าผู้อพยพบางคนสามารถอพยพผ่านโปรแกรมผู้ลี้ภัยที่มีทักษะหรือมีเงินลงทุน แต่บางคนก็ใช้เส้นทางลักลอบที่ในโลกออนไลน์รู้จักกันว่า 走线 (zouxian, “walking the route”) โจ่วเซียน หรือการเดินเท้าข้ามผ่านละตินอเมริกาเข้าสู่สหรัฐฯ

โจ่วเซียน กลายเป็นคำฮิตที่ถูกค้นหามากสุดในแอปพลิเคชันโต่วอิน แอปแบบ TikTok ในเวอร์ชันจีนที่มีเจ้าของเดียวกันอย่าง Bytedance จากข้อมูลของรอยเตอร์สบอกว่าโจ่วเซียนเป็นเหมือนตำราการเดินทางของคนที่ประสบความสำเร็จในการอพยพข้ามทวีปจากจีนสู่สหรัฐ โดยผู้อพยพชาวจีนส่วนใหญ่จะซื้อตั๋วเครื่องบินจากจีนไปลงที่ประเทศเอกวาดอร์ในทวีปอเมริกาใต้ ส่วนทำไมต้องเอกวาดอร์ก็เพราะคนจีนสามารถเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า แต่กับบางคน โดยเฉพาะคนชนชั้นกลางก็ซื้อตั๋วมาลงที่เม็กซิโกเพื่อประหยัดเวลาได้เลย นอกจากนี้ยังมีแนะนำเรื่องรองเท้าที่ต้องใส่ระหว่างเดินเท้าอพยพด้วย เช่น ใส่รองเท้าของ Crocs หรือรองเท้าบูทสำหรับไปปีนเขาจะดีที่สุด รวมทั้งยังมีแนะนำว่าจะหาไกด์ท้องถิ่นที่เชื่อถือได้ยังไง จ่ายราคาไหนถึงโอเค

หลังจากลงเครื่องมาเอกวาดอร์ ตามแผนที่ที่เห็นผู้อพยพต้องเดินทางผ่านโคลอมเบีย ปานามา คอสตาริกา นิการากัว ก่อนจะมาถึงชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐ แต่อยากให้ดูตรงที่ๆ เรียกว่า “Darien Gap” ตรงนี้คือทางเดินผ่านป่าที่เชื่อมระหว่างโคลอมเบียเข้าไปยังปานามา ข้อมูลที่รอยเตอร์สเอามาจากรัฐบาลปานามา รายงานว่าจากปี 2010 มีคนจีนอพยพผ่าน Darien Gap อยู่ที่ 268 คน แต่ปี 2023 กระโดดมาถึง 3,855 คน

ชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐ ที่มีกำแพงตั้งสูงตระหง่าน แต่กลับมีช่องโหว่เล็กๆ ขนาดพอ 1 คนลอดเข้ามากลับกลายเป็นช่องมหันตภัยที่มีผู้อพยพเดินเข้ามาไม่ขาดสาย รายการสารคดีชื่อดัง 60 Minutes ของสถานีข่าว CBS ของสหรัฐได้เผยบทสัมภาษณ์กับ Jerry Shuster เจ้าของบ้านที่มีบ้านอยู่ติดกับกำแพงชายแดนนั้นแค่เพียง 400 เมตร เขาบอกแบบนี้ว่าในช่วงที่กลุ่มผู้อพยพข้ามผ่านช่องนั้นมา ก็ต้องมารอตำรวจตระเวนชายแดนมารับตัวไปตามกระบวนการ ถ้าโชคดีก็รอเป็นหน่วยชั่วโมง แต่ถ้าโชคร้ายก็รอเป็นวัน และถ้าเป็นช่วงอากาศหนาว เหล่าผู้อพยพก็จะเผาต้นไม้เพื่อไออุ่น ตั้งเต๊นท์ชั่วคราว และจากไปพร้อมกองขยะ ซึ่งที่ๆ พวกเขามารอนั้นคือที่ในอาณาบริเวณของ Shuster

Shuster คือผู้ที่พร่ำบอกว่าตัวเองได้รับผลกระทบโดยตรงจากคลื่นผู้อพยพที่หลั่งไหลผ่านช่องชายแดนนั้นอย่างเหลืออดแล้ว เขาเคยบอกกับทางการท้องถิ่นว่าให้จัดการปิดช่องโหว่ตรงกำแพงนั้น โดยคำตอบที่เขาได้รับคือ คุณต้องไปบอกที่วอชิงตัน ดีซี เอง

ช่องโหว่ที่ใช้ข้ามเข้ามายังสหรัฐ จะได้รับการซ่อมอย่างที่ Shuster ขอไว้มั้ย จากขอบเขตอำนาจของสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนของสหรัฐรายงานชัดเจนแล้วว่าเจ้าหน้าที่ของพวกเขาไม่มีอำนาจที่จะหยุดผู้คนให้ไม่ผ่านช่องนั้นได้ เจ้าหน้าที่ทำได้แค่จับตัวผู้อพยพที่ผิดกฎหมายเหล่านั้น ส่วนเรื่องจะปิดช่อง หรือซ่อมแซม แม้จะเป็นสิ่งที่พิจารณาแล้วว่าควรต้องทำเป็นอันดับแรกด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องใช้เงินจากสภาคองเกรส

อย่างไรก็ตาม สภาคองเกรสที่ล่าสุดในชั้นสภาผู้แทนราษฎรระหว่าง 2 พรรคก็ยังสาละวนตกลงกันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงบประมาณก้อนใหญ่ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเสนอเพื่อเอาไปช่วยเหลือพันธมิตร เช่น ยูเครน อิสราเอล และไต้หวัน แต่ส.ส. พรรครีพลับลิกันไม่เห็นด้วย โดยมองว่างบก้อนใหญ่นี้ควรให้ความสำคัญกับปัญหาระดับประเทศ นั่นก็คือปัญหาผู้อพยพนั่นเอง

ตรวจหวยงวดนี้ – ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 มีนาคม 2567 ลอตเตอรี่ 1/3/67

ตรวจผลออกรางวัลสลากออมสินพิเศษ 2 ปี งวดวันที่ 1 มีนาคม 2567

ประกาศฉบับที่ 1 “พายุฤดูร้อน” รับมือ พายุฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง